สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป
ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะแชร์เรื่องราวในชีวิตของเด็กจบใหม่คนนึง
มันเป็นเหตุการณ์และคำพูดของพ่อเรา ที่บอกเราในวันที่พ่อเมา
เรื่องมันมีอยู่ว่า เราเป็นเด็กจบใหม่ เพิ่งเรียนจบและได้งานทำที่จังหวัดบ้านเกิด
เราตัดสินใจทิ้งงานอื่นที่ได้ใน กทม เพื่อกลับมาทำงานที่บ้าน บอกเลยว่าเป็นช่วงที่มีความสุขมาก
มโนโน่นนี่นั่นเต็มไปหมด เรียนจบปุ๊บก็ได้งานปั๊บ จะได้กลับมาดูแลพ่อแม่ด้วยเพราะเขาอยู่กันสองคน
หลังจากที่เราไปทำงานได้สามวัน เราเริ่มรู้สึกเลยว่ามันไม่ใช่
งานมันใกล้เคียงกับสายที่เราจบมา แต่ถามว่าชอบไหม ใช่ไหม บอกเลยว่าไม่ใช่
ทำแล้วไม่มีความสุข กดดัน กดขี่ค่าแรง และไม่ตรงตามที่คุยกันไว้ตอนสมัครงานสักอย่างเดียว
เรากลับมาปรึกษาพ่อพ่อพูดคำเดียวว่า "ไม่ต้องทำแล้วลูกถ้าทำแล้วมันไม่มีความสุข
ไปทำแล้วกลับมาร้องไห้แบบนี้ แล้วไม่ต้องเครียดด้วย พ่อยังไม่เครียดเลยเนี่ย"
หลังจากนั้นเราก็คิดอยู่วันนึงเต็มๆ ว่าเราจะเอาไงต่อดี ถ้าเราออกเราก็คือคนตกงาน
งานก่อนหน้านี้เราก็บอกปฏิเสธไปแล้ว เราอย่างเครียด ป้าๆในชุมชนแถวบ้านก็ถามอยู่ทุกวันว่าทำงานที่ไหน
จบแล้วได้งานหรือยัง บอกเลยว่าวินาทีนั้นกลัวพ่อแม่เสียใจ ถ้าเราออกพ่อแม่ก็คงไม่มีคำตอบที่ภูมิใจไว้บอกคนอื่นๆ T^T
เราเครียด สับสน กังวลมาก มันผิดแผนที่สวยหรูที่เราวางไว้ไปหมดเลย ตั้งใจจะกลับมาทำงานที่บ้าน ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ
ที่ลูกจบออกมาก็ได้งานเลย ได้กลับมาอยู่ที่บ้าน แต่ก็นะ เรามันอินดี้ ถ้ามันไม่ใช่เราก็พร้อมที่จะออก
ออกมาเปิดโอกาสให้ตัวเองอีกครั้งสุดท้ายเราก็ลาออกจากงานนั้น ซึ่งทำงานได้เพียงห้าวัน
(แอบเม้าท์ว่าผู้จัดการแอบจิกเราด้วยว่าออกไปแล้วทีนี้จะไปทำอะไรต่อล่ะ
ที่นี่ไม่มีงานสายที่น้องจบมานะ =,,= เราก็ค่ะ ตอบกลับไปเบาๆ พอดีที่บ้านมีธุรกิจจะกลับไปช่วยพ่อก่อน (โม้555555))
หลังจากนั้นเราก็กลับมาตกงานอย่างเต็มตัว =O=
แต่คงเป็นเพราะโชคช่วยหรืออะไร หลังจากที่เราเครียดอยู่สองวันเพื่อนสนิทก็โทรมาบอกว่าบริษัทที่เพื่อนเราได้งานทำอยู่ต้องการคนเพิ่ม
อยากได้ที่จบมาด้วยกันไปทำงานอีกคนนึง เราดีใจมากเลย เงินเดือนตามขั้นต่ำป.ตรี ที่อยู่ฟรี สวัสดิการตามที่กำหมายกำหนด
สำหรับคนตกงานและเพิ่งจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ถือว่าโชคดีมาก และเหนือไปกว่านั้นเป็นงานที่ตรงสายที่เราเรียนมา
และเราชอบมาก ก่อนหน้านี้งานที่เรียกเราไปสัมภาษณ์ยังไม่มีงานไหนตรงอันที่เราอยากทำเลยสักงาน มีแต่ใกล้เคียง
เราโอเคมาก อยากลอง อยากทำในสิ่งที่เรียนมา เราตกลงปลงใจว่าจะไปและก็บอกพ่อในวันถัดมา
แต่ก็ยังไม่ได้นัดทางบริษัทเพื่อสัมภาษณ์
จุดไคลแมกซ์มันอยู่ตรงนี้แหละ หลังจากที่เราบอกพ่อและอยู่ในช่วงตัดสินใจแต่มีแนวโน้มว่าจะไปแน่ๆ เพราะเป็นสายงานตรงใจมาก
มีอยู่วันนึงที่พ่อเราเมาหนักมาก มันเลยทำให้เรารู้ความในใจของพ่อ วันนั้นพ่อพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อคิดและพ่อรู้สึก
ผู้ชายคนนึงที่ทำงานหนักมาตลอดชีวิตตั้งแต่เด็ก เรียนจบมัธยมสามก็ต้องออกมาช่วยปู่กับย่าทำนาส่งน้องๆเรียน
ผู้ชายที่เก็บทุกอย่างที่คิดและรู้สึกไว้ในใจ ผู้ชายที่เป็นผู้นำครอบครัว ต้องเข้มแข็งและเสียสละอะไรหลายๆอย่างในชีวิต
พ่อถามว่า "อยากไปทำงานที่นั่นเหรอ"
เราก็บอกว่า "ใช่ มันตรงกับที่หนูเรียนมาถูกใจมาก ที่พักฟรีด้วย"
พ่อเงียบไปสักพักแล้วก็บอก "ทำงานอยู่ที่บ้านได้ไหม" (เราใจแป้วเลย รู้เลยว่าพ่ออยากให้อยู่บ้าน น้ำตามาเลย TT^TT)
เรา : บ้านเราไม่มีงานสายที่หนูเรียนมา และบริษัทนี้ให้โอกาสหนู หนูอยากไปลองดู แล้วบ้านเราหนูก็ยังหางานไม่ได้
หนูไม่อยากตกงานนาน หนูเห็นใครๆก็ถามพ่อว่าลูกสาวทำงานที่ไหน หนูกลัวพ่อแม่อายเขาที่หนูยังไม่มีงานทำ
พ่อ : ใครจะว่าก็ปล่อยให้เขาว่าไป เขาไม่ได้มาหุงข้าวให้เรากินสักหน่อย พ่อส่งเอ็งเรียนไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย จะไปแคร์อะไรเขา
ทำไมอ่ะ พ่อมีเงิน จะส่งลูกเรียนแล้วให้จบกลับมาอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้เหรอ (พ่อน้ำตาคลอ) พ่อเนี่ยเป็นลูกชาวนา
เด็กๆก็ต้องเลี้ยงควาย ลำบากตั้งแต่เด็ก โตมาก็ยังลำบาก มีลูกก็ยังลำบากหาเงินส่งลูกเรียน พ่อแค่อยากให้ลูกมีความรู้เยอะๆ
แต่พ่อไม่ได้อยากให้ลูกไปอยู่ที่อื่น ไปอยู่ไกลบ้าน ไปเรียนไกลบ้านพ่อไม่ได้ว่า อันนั้นไปเรียน แต่ก็ไม่อยากให้ไปทำงานที่อื่น
รู้ไหมว่าพ่อเป็นห่วง จะไปอยู่ยังไง กินยังไง จะอยู่สบายหรือป่าว มีเรื่องทุกข์ใจจะทำยังไง พ่อแค่ห่วงเอ็ง
(กระดาษทิชชูหมดไปม้วนกว่าๆ อ่าา TTTT_____TTTT)
เรา : (ร้องไห้อย่างเดียวเลย เรารู้ว่าพ่อเราเหนื่อยแค่ไหน ลำบากแค่ไหนกว่าจะมีวันนี้ ตอนเรียนปี 4 เป็นตอนที่หนักที่สุด
เพราะเราเรียนปีสี่ ทำธีสิสหมดไปหลาย น้องสาวเข้าปีหนึ่ง กำลังใช้เงินทั้งคู่)
พ่อ : ถ้าเอ็งไปอยู่ที่อื่น ใครจะช่วยทำค้าขาย (ที่บ้านเราทำธุรกิจค้าขายผลไม้ช่วงฤดูกาล) 10 ปีที่พ่อทำมา พ่อทำเพื่ออะไร
เพื่อที่วันนึงเอ็งเรียนจบจะได้กลับมาอยู่บ้าน กลับมาช่วยกันทำตรงนี้ ไม่ต้องไปทำงานที่อื่น
ไม่ต้องไปพยายามที่จะหาเงินมาเลี้ยงพ่อแม่หรอก พ่อไม่ได้ต้องการ
แค่ต้องการให้ลูกกลับมาอยู่บ้าน มาดูแลพ่อแม่ เราไม่ต้องมีเงินมากหรอก แค่อยู่ด้วยกัน พ่อยังสุขใจมากกว่าอีก
วันนั้นพ่อเราเมามาก พูดหมดเลยหลังจากเงียบๆมาหลายวัน หลังจากที่บอกว่าตามใจเรา เอาไงแล้วแต่เลย และแม่เราก็โอเค
แม่บอกเสมอว่าอยากให้เราได้ไปทำในสิ่งที่เราอยากทำ ให้ไปโบยบินตามฝัน ยังเด็กยังมีแรงมีกำลัง ให้ไปซะก่อน
บ้านก็อยู่ตรงนี้ แม่รู้ว่าสักวันหนูก็ต้องกลับบ้าน พ่อแม่ยังไม่ได้แก่อะไรมาก ยังดูและตัวเองได้สบายๆ
หลังจากที่พ่อเราพูดความในใจหมดเปลือกพ่อก็ทิ้งท้ายว่า "ชงนมให้แก้วนึง ไม่ต้องคิดมาก พ่อรักลูก"
พ่อเราเป็นคนที่จะไม่กอด ไม่หอม ไม่แสดงความรักกับลูก ยกเว้นตอนเมาพ่อจะกล้าบอกรักลูก
มันทำให้เรารู้ว่าผู้ชายคนนี้เหนื่อยมามากจริงๆ สิ่งเดียวที่เป็นชีวิต เป็นความภูมิใจของเขาก็คือเรา
เราจึงพยายามที่จะทำให้พ่อแม่ภูมิใจ ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องอื่นๆ
** เดี๋ยวมาต่อตอนจบนะคะ จะมีคนเข้ามาอ่านไหมนะ เขียนซะยาวยืดเลย เขียนไปร้องไห้ไป T^T
ความในใจของพ่อหลังจากที่ฉันเรียนจบปริญญาตรี // [แชร์เรื่องราว]
ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะแชร์เรื่องราวในชีวิตของเด็กจบใหม่คนนึง
มันเป็นเหตุการณ์และคำพูดของพ่อเรา ที่บอกเราในวันที่พ่อเมา
เรื่องมันมีอยู่ว่า เราเป็นเด็กจบใหม่ เพิ่งเรียนจบและได้งานทำที่จังหวัดบ้านเกิด
เราตัดสินใจทิ้งงานอื่นที่ได้ใน กทม เพื่อกลับมาทำงานที่บ้าน บอกเลยว่าเป็นช่วงที่มีความสุขมาก
มโนโน่นนี่นั่นเต็มไปหมด เรียนจบปุ๊บก็ได้งานปั๊บ จะได้กลับมาดูแลพ่อแม่ด้วยเพราะเขาอยู่กันสองคน
หลังจากที่เราไปทำงานได้สามวัน เราเริ่มรู้สึกเลยว่ามันไม่ใช่
งานมันใกล้เคียงกับสายที่เราจบมา แต่ถามว่าชอบไหม ใช่ไหม บอกเลยว่าไม่ใช่
ทำแล้วไม่มีความสุข กดดัน กดขี่ค่าแรง และไม่ตรงตามที่คุยกันไว้ตอนสมัครงานสักอย่างเดียว
เรากลับมาปรึกษาพ่อพ่อพูดคำเดียวว่า "ไม่ต้องทำแล้วลูกถ้าทำแล้วมันไม่มีความสุข
ไปทำแล้วกลับมาร้องไห้แบบนี้ แล้วไม่ต้องเครียดด้วย พ่อยังไม่เครียดเลยเนี่ย"
หลังจากนั้นเราก็คิดอยู่วันนึงเต็มๆ ว่าเราจะเอาไงต่อดี ถ้าเราออกเราก็คือคนตกงาน
งานก่อนหน้านี้เราก็บอกปฏิเสธไปแล้ว เราอย่างเครียด ป้าๆในชุมชนแถวบ้านก็ถามอยู่ทุกวันว่าทำงานที่ไหน
จบแล้วได้งานหรือยัง บอกเลยว่าวินาทีนั้นกลัวพ่อแม่เสียใจ ถ้าเราออกพ่อแม่ก็คงไม่มีคำตอบที่ภูมิใจไว้บอกคนอื่นๆ T^T
เราเครียด สับสน กังวลมาก มันผิดแผนที่สวยหรูที่เราวางไว้ไปหมดเลย ตั้งใจจะกลับมาทำงานที่บ้าน ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ
ที่ลูกจบออกมาก็ได้งานเลย ได้กลับมาอยู่ที่บ้าน แต่ก็นะ เรามันอินดี้ ถ้ามันไม่ใช่เราก็พร้อมที่จะออก
ออกมาเปิดโอกาสให้ตัวเองอีกครั้งสุดท้ายเราก็ลาออกจากงานนั้น ซึ่งทำงานได้เพียงห้าวัน
(แอบเม้าท์ว่าผู้จัดการแอบจิกเราด้วยว่าออกไปแล้วทีนี้จะไปทำอะไรต่อล่ะ
ที่นี่ไม่มีงานสายที่น้องจบมานะ =,,= เราก็ค่ะ ตอบกลับไปเบาๆ พอดีที่บ้านมีธุรกิจจะกลับไปช่วยพ่อก่อน (โม้555555))
หลังจากนั้นเราก็กลับมาตกงานอย่างเต็มตัว =O=
แต่คงเป็นเพราะโชคช่วยหรืออะไร หลังจากที่เราเครียดอยู่สองวันเพื่อนสนิทก็โทรมาบอกว่าบริษัทที่เพื่อนเราได้งานทำอยู่ต้องการคนเพิ่ม
อยากได้ที่จบมาด้วยกันไปทำงานอีกคนนึง เราดีใจมากเลย เงินเดือนตามขั้นต่ำป.ตรี ที่อยู่ฟรี สวัสดิการตามที่กำหมายกำหนด
สำหรับคนตกงานและเพิ่งจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ถือว่าโชคดีมาก และเหนือไปกว่านั้นเป็นงานที่ตรงสายที่เราเรียนมา
และเราชอบมาก ก่อนหน้านี้งานที่เรียกเราไปสัมภาษณ์ยังไม่มีงานไหนตรงอันที่เราอยากทำเลยสักงาน มีแต่ใกล้เคียง
เราโอเคมาก อยากลอง อยากทำในสิ่งที่เรียนมา เราตกลงปลงใจว่าจะไปและก็บอกพ่อในวันถัดมา
แต่ก็ยังไม่ได้นัดทางบริษัทเพื่อสัมภาษณ์
จุดไคลแมกซ์มันอยู่ตรงนี้แหละ หลังจากที่เราบอกพ่อและอยู่ในช่วงตัดสินใจแต่มีแนวโน้มว่าจะไปแน่ๆ เพราะเป็นสายงานตรงใจมาก
มีอยู่วันนึงที่พ่อเราเมาหนักมาก มันเลยทำให้เรารู้ความในใจของพ่อ วันนั้นพ่อพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อคิดและพ่อรู้สึก
ผู้ชายคนนึงที่ทำงานหนักมาตลอดชีวิตตั้งแต่เด็ก เรียนจบมัธยมสามก็ต้องออกมาช่วยปู่กับย่าทำนาส่งน้องๆเรียน
ผู้ชายที่เก็บทุกอย่างที่คิดและรู้สึกไว้ในใจ ผู้ชายที่เป็นผู้นำครอบครัว ต้องเข้มแข็งและเสียสละอะไรหลายๆอย่างในชีวิต
พ่อถามว่า "อยากไปทำงานที่นั่นเหรอ"
เราก็บอกว่า "ใช่ มันตรงกับที่หนูเรียนมาถูกใจมาก ที่พักฟรีด้วย"
พ่อเงียบไปสักพักแล้วก็บอก "ทำงานอยู่ที่บ้านได้ไหม" (เราใจแป้วเลย รู้เลยว่าพ่ออยากให้อยู่บ้าน น้ำตามาเลย TT^TT)
เรา : บ้านเราไม่มีงานสายที่หนูเรียนมา และบริษัทนี้ให้โอกาสหนู หนูอยากไปลองดู แล้วบ้านเราหนูก็ยังหางานไม่ได้
หนูไม่อยากตกงานนาน หนูเห็นใครๆก็ถามพ่อว่าลูกสาวทำงานที่ไหน หนูกลัวพ่อแม่อายเขาที่หนูยังไม่มีงานทำ
พ่อ : ใครจะว่าก็ปล่อยให้เขาว่าไป เขาไม่ได้มาหุงข้าวให้เรากินสักหน่อย พ่อส่งเอ็งเรียนไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย จะไปแคร์อะไรเขา
ทำไมอ่ะ พ่อมีเงิน จะส่งลูกเรียนแล้วให้จบกลับมาอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้เหรอ (พ่อน้ำตาคลอ) พ่อเนี่ยเป็นลูกชาวนา
เด็กๆก็ต้องเลี้ยงควาย ลำบากตั้งแต่เด็ก โตมาก็ยังลำบาก มีลูกก็ยังลำบากหาเงินส่งลูกเรียน พ่อแค่อยากให้ลูกมีความรู้เยอะๆ
แต่พ่อไม่ได้อยากให้ลูกไปอยู่ที่อื่น ไปอยู่ไกลบ้าน ไปเรียนไกลบ้านพ่อไม่ได้ว่า อันนั้นไปเรียน แต่ก็ไม่อยากให้ไปทำงานที่อื่น
รู้ไหมว่าพ่อเป็นห่วง จะไปอยู่ยังไง กินยังไง จะอยู่สบายหรือป่าว มีเรื่องทุกข์ใจจะทำยังไง พ่อแค่ห่วงเอ็ง
(กระดาษทิชชูหมดไปม้วนกว่าๆ อ่าา TTTT_____TTTT)
เรา : (ร้องไห้อย่างเดียวเลย เรารู้ว่าพ่อเราเหนื่อยแค่ไหน ลำบากแค่ไหนกว่าจะมีวันนี้ ตอนเรียนปี 4 เป็นตอนที่หนักที่สุด
เพราะเราเรียนปีสี่ ทำธีสิสหมดไปหลาย น้องสาวเข้าปีหนึ่ง กำลังใช้เงินทั้งคู่)
พ่อ : ถ้าเอ็งไปอยู่ที่อื่น ใครจะช่วยทำค้าขาย (ที่บ้านเราทำธุรกิจค้าขายผลไม้ช่วงฤดูกาล) 10 ปีที่พ่อทำมา พ่อทำเพื่ออะไร
เพื่อที่วันนึงเอ็งเรียนจบจะได้กลับมาอยู่บ้าน กลับมาช่วยกันทำตรงนี้ ไม่ต้องไปทำงานที่อื่น
ไม่ต้องไปพยายามที่จะหาเงินมาเลี้ยงพ่อแม่หรอก พ่อไม่ได้ต้องการ
แค่ต้องการให้ลูกกลับมาอยู่บ้าน มาดูแลพ่อแม่ เราไม่ต้องมีเงินมากหรอก แค่อยู่ด้วยกัน พ่อยังสุขใจมากกว่าอีก
วันนั้นพ่อเราเมามาก พูดหมดเลยหลังจากเงียบๆมาหลายวัน หลังจากที่บอกว่าตามใจเรา เอาไงแล้วแต่เลย และแม่เราก็โอเค
แม่บอกเสมอว่าอยากให้เราได้ไปทำในสิ่งที่เราอยากทำ ให้ไปโบยบินตามฝัน ยังเด็กยังมีแรงมีกำลัง ให้ไปซะก่อน
บ้านก็อยู่ตรงนี้ แม่รู้ว่าสักวันหนูก็ต้องกลับบ้าน พ่อแม่ยังไม่ได้แก่อะไรมาก ยังดูและตัวเองได้สบายๆ
หลังจากที่พ่อเราพูดความในใจหมดเปลือกพ่อก็ทิ้งท้ายว่า "ชงนมให้แก้วนึง ไม่ต้องคิดมาก พ่อรักลูก"
พ่อเราเป็นคนที่จะไม่กอด ไม่หอม ไม่แสดงความรักกับลูก ยกเว้นตอนเมาพ่อจะกล้าบอกรักลูก
มันทำให้เรารู้ว่าผู้ชายคนนี้เหนื่อยมามากจริงๆ สิ่งเดียวที่เป็นชีวิต เป็นความภูมิใจของเขาก็คือเรา
เราจึงพยายามที่จะทำให้พ่อแม่ภูมิใจ ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องอื่นๆ
** เดี๋ยวมาต่อตอนจบนะคะ จะมีคนเข้ามาอ่านไหมนะ เขียนซะยาวยืดเลย เขียนไปร้องไห้ไป T^T